การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction)
U : การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบการสอนที่ผู้สอนมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive-การกระทำโดยไม่ต้องมีสิ่งใดมากระตุ้น) เกี่ยวกับการผลิตและหรือจัดหาจัดทำหรือชี้แนะผลิตภัณ์การศึกษา และสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน
          การออกแบบการเรียนการสอนนำความรู้จากหลายสาขาวิชามาประยุกต์เข้าด้วยกันเป็นขั้นตอน กระบวนการเชิงระบบเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน โดยพื้นฐานแล้ววิธีการเชิงระบบกำหนกดให้ต้องระบุว่าจจะเรียนอะไร วางแผนการสอนว่าจะยอมให้การเรียนรู้อะไรเกิดขึ้น วัดผลการเรียนรู้เพื่อตัดสินว่า การเรียนรู้นั้นบรรลุตามจุดประสงค์หรือไม่และกลั้นกรองตัวสอดแทรก จนกระทั่งบรรลุจุดประสงค์ จากลักษณะนี้เองจึงทำให้เกิดแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั่วไปขึ้น
          เกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนนนี้ แฮนนัมและบริกส์ได้เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิม และการเรียนการสอนเชิงระบบ ดังรายละเอียดในตารางที่ 11
          ในการออกแบบการเรียนการสอน กระบวนการมีผลสำคัญพอๆ กับผลิตผล เพราะว่ามีความเชื่อมั่นในผลิตผลจะขึ้นอยู่กับกระบวนการ ในการที่จะมีความเชื่อมั่นในผลิตผล ต้องดำเนินการตามแบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอน สำหรับในแต่ล่ะขั้นตอนนั้น ลำดับขั้นตอนของแบบจำลองการออกแบบกรเรียนการสอน ลำดับขั้นของภาระงานจะต้องแสดงออกมา และผลที่ได้รับที่มีความเฉพาะเป็นพิเศษก็จะเกิดขึ้นดังรายละเยดในตารางที่ 11
            บทบาทของผู้ออกแบบการเรียนการสอน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่นำเสนอว่าต้องอาศัยเทคนิค หรือไม่ต้องอาศัยเทคนิค และขึ้นอยู่กับส่วนประกอบของทีมการออกแบบเนื้อหาที่ต้องใช้เทคนิคสูง ผู้ออกแบบจำเป็นต้องให้คำแนะนำในการออกแบบกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ถ้านเอหานั้นไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคที่สูงมากเกินไป ผู้ออกแบบก็สามารถจัดทำได้อย่างอิสระมากขึ้นด้วยความช่วยเหลือของผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ผู้ออกแบบสามารถที่จะทำงานเป็นผู้ให้คำปรึกษาจากภายนอก และรับผิดชอบภาระงานทั้งหมด เหมือนกับเป็นคนในสำนักงาน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา บทบาทของผู้ออกแบบสามารถมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา ดังตัวอย่างทั้ง 3 คือ
          1. ผู้ชำนาญการด้านเนื้อหาและมีสมรรถภาพในการออกแบบการเรียนการสอนและเทคโนโลยี และเป็นผู้ที่รู้บทบาทของการออกแบบด้วย ไม่จำเป็นต้องอาศัยความช่วยเหลือด้านความรู้ ความชำนาญทางเนื้อหาวิชา
          2. ผู้ออกแบบการเรียนการสอน ที่ได้รับการร้องขอให้ทำงานในด้านเนื้อหาที่อาจจะมีความคุ้นเคย แต่ผู้ออกแบบยังคงมีความรู้สึกจำเป็นที่จะทำงานกับผู้ชำนาญการด้านเนื้อหา
          3. ผู้ออกแบบอาจจะได้รับการร้องขอให้พัฒนาหรือวิจัยในด้านเนื้อหาที่ไม่มีความคุ้นเคย และดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกและทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาจำนวนมาก

ตารางที่ 11 เปรียบเทียบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมกับการเรียนการสอนเชิงระบบ
องค์ประกอบของการเรียนการสอน
การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม
การเรียนการสอนเชิงระบบ
1. กำหนดเป้าประสงค์(Setting goals)
*ตำราหลักสูตรดั้งเดิมการอ้างอิงภายใน
*การประเมินความต้องการจำเป็น
*การวิเคราะห์งาน
*การอ้างอิงภายนอก
2. จุดประสงค์(Objectives)
*กล่าวในรูปของผลที่ได้รับรวมๆ หรืการปฏิบัติของครู
*เหมือนกันสำรับนักเรียนทุกคน
*จากการประเมินความต้องการจำเป็นการวิเคราะห์/การประเมินงาน
*การเลือกด้วยการพิจารณาจาก
*ความสามารถของผู้เรียนเมื่อแรกเข้าเรียน
3. จุดประสงค์ในความรู้เฉพาะของผู้เรียน
*ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าต้องใช้สัญญาณจากการฟังคำบรรยายและการอ่านตำรา
*บอกกล่าวอย่างเฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษล่วงหน้าก่อนเรียน
4. ความสามารถก่อนเข้าเรียน
*ไม่ต้องใส่ใจนักเรียนทุกคนมีจุดประสงค์และวัสดุอุปกรณ์/กิจกรรมเหมือนกันหมด
*การพิจารณา
*การกำหนดวัสดุอุปกรณ์/กิจกรรมแตกต่างกัน
5. ผลสัมฤทธ์ที่คาดหวัง
*ใช้โค้งมาตรฐาน
*มีความเป็นแบบอย่างเดียวกันสูง
6. ความรอบรู้
*นักเรียนส่วนน้อยรอบรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
*รูปแบบผดพลาด
*นักเรียนส่วนใหญ่รอบรู้จุดประสงค์ทั้งหมด
7. ค่าระดับและการเลื่อนระดับ
*อยู่บนพื้นฐานการเปรียบเทียบกับนักเรียนคนอื่นๆ
*อยู่บนพื้นฐานการรับรู้จุดประสงค์
8. การสอนเสริม
*บ่อยครั้งที่ไม่มีการวางแผน
*ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดประสงค์หรือวิธีการเรียนการสอน
*การวางแผนสำหรับนักเรียนที่ต้องการความช่วยเหลือแสงหาจุดประสงค์อื่นๆ เลือกวิธีการเรียนการสอน
9. การใช้แบบทดสอบ
*กำหนดค่าระดับ
*เฝ้าระวังติดตามความก้าวหน้าของผู้เรียน
*ตัดสินความรอบรู้
*วินิจฉัยความยากลำบาก
*ปรับปรุงการเรียนการสอน
10. เวลาศึกษากับความรอบรู้
*เวลาคงที่ ระดับของความรอบรู้หลากหลายแตกต่างกัน
*ความรอบรู้คงที่ เวลาหลากหลายแตกต่างกัน
11. การตีความของความล้มเหลวที่จะไปให้ถึงความรู้
*นักเรียนผู้ส่งสาร
*มีความต้องการจำเป็นที่ต้องปรับปรุงการเรียนการสอน
12. การพัฒนารายวิชา
*เลือกวัสดุอุปกรณ์ก่อน
*ระบุจุดประสงค์ก่อนแล้วจึงจะเลือกวัสดุอุปกรณ์
13. ลำดับขั้นตอน
*อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลและสังเขปหัวเรื่อง
*อยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่ต้องรู้ก่อนตามความจำเป็น และหลักการของการเรียนรู้
14. การปรับปรุงการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์
*อยู่บนพื้นฐานของการคาดเดางาน หรือความพอเพียง
*วัสดุอุปกรณ์ใหม่
*เกิดขึ้นเป็นพักๆ
*อยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อมูล
*เกิดขึ้นเป็นประจำ
15. กลยุทธ์การเรียนการสอน
*พอใจให้ผ่านได้อย่างกว้างๆ
*อยู่บนพื้นฐานของความชอบและความคล้ายคลึง
*เลือกที่จะได้รับตามจุดประสงค์
*ใช้ยุทธวิธีที่หลากหลาย
*อยู่บนพื้นฐานของทฤษฏีและการวิจัย
16. การประเมินผล
*บ่อยครั้งที่ไม่เกิดขึ้น การวางแผนเชิงระบบมีน้อย
*ประเมินแบบอิงกลุ่ม ข้อมูลได้จากปัจจัยนำเข้า และกระบวนการ
*การวางแผนเป็นระบบ เกิดขึ้นประจำ
*ประเมินความรอบรู้ตามจุดประสงค์
*ประเมินผลอิงเกณฑ์ข้อมูลได้จากผลที่ได้รับ(ผลผลิต)

ตารางที่ 12 งานและผลผลิตของกระบวนการออกแบบการเรียนการสอน
ขั้นตอนและภาระงาน
ตัวอย่างภาระงาน
ตัวอย่างผลผลิต
การวิเคราะห์-กระบวนการของการนิยามว่าต้องเรียนอะไร
*ประเมินความต้องการจำเป็น
*ระบุปัญหา
*วิเคราะห์ภาระงาน
*แฟ้มผู้เรียน
*การพรรณนาข้อจำกัด
*คำกล่าวของความต้องการจำเป็นและปัญหา
*การวิเคราะห์ภาระงาน
การออกแบบ-กระบวนการของการชี้เฉพาะว่าจะเรียนอย่างไร
*เขียนจุดประสงค์
*พัฒนารายการของแบบทดสอบ
*วางแผนการเรียนการสอน
*ระบุแหล่งทรัพยากร
*จุดประสงค์ที่วัดได้กลยุทธ์การเรียนการสอน
*ลักษณะเฉพาะของตัวแบบ
การพัฒนา-กระบวนการของหน้าที่และผลิตวัสดุอุปกรณ์
*พัฒนาคู่มือ แผนภูมิ โปรแกรม
*สคริป
*แบบฝึกหัด
*คอมพิวเตอร์ช่วยการเรียนการสอน
การนำไปใช้-กระบวนการของการก่อตั้งโครงการในบริษัทแห่งโลกความเป็นจริง
*การฝึกอบรม
*การทดลอง
*การให้ความเห็นของนักเรียนข้อมูล
การประเมินผล-กระบวนการของการตกลงใจเกี่ยวกับความเห็นผลของการเรียนการสอน
*บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับเวลา
*ผลการแปลความแบบทดสอบ
*สำรวจผู้สำเร็จการศึกษา
*ทบทวนกิจกรรม
*คำรับรอง
*รายงานโครงการ
*ทบทวนตัวแบบ

          นับว่าเป็นเรื่องสำคัญด้วยเหมือนกัน ที่จะให้ความแตกต่างระหว่างบทบาทของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ เพราะว่าข้อกำหนดในความสำเร็จของทั้งสองส่วนนี้มีความแตกต่างกัน ผู้ที่เป็นนักวิจัยสนใจในแต่ล่ะขั้นตอนของรูปแบบทั่วไปดังนั้นความสนใจและเป้าหมายประสงค์ของผู้ปฏิบัติ(id practitioner)จึงแตกต่างออกไปความสนใจและเป้าประสงค์ที่แตกต่างกันการแสดงไว้ใน ตารางที่ 3
ผู้ออกแบบที่เป็นนักปฏิบัติสามารถแสดงออกในแต่ละขั้นตอนจากการวิเคราะห์ไปจนถึงการทดลองขึ้นอยู่กับว่าจะพรรณนางานว่าอย่างไรถ้างานของผู้ออกแบบระบุไว้อย่างแคบๆและผู้ออกแบบแสดงเพียง 2-3ขั้นตอนเท่านั้นโดยละทิ้งขั้นตอนที่เป็นผลิตผลการนำไปใช้และการประเมินผล
นักวิจัยการออกแบบการเรียนการสอน(id reoember) หรือผู้เชี่ยวชาญ (specialist)สนใจศึกษาตัวแปรและพัฒนาทฤษฎีที่สัมพันธ์กับการเรียนการสอนนักปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอน (ID practitioner orgeneration)สนใจการประยุกต์งานวิจัยและทฤษฎีการพัฒนาการเรียนการสอนและวัสดุอุปกรณ์บทบาทอื่นๆของผู้วิจัยการออกแบบการเรียนการสอนดังแสดงไว้ในตารางที่ 3 ส่วนบทบาทของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนดังแสดงในตารางที่ 13
สาขาวิชาการออกแบบการเรียนการสอนมีอายุประมาณ 30ปีเป็นบทบาทของนักวิจัยที่จะส่งเสริมความงอกงามในทฤษฎีของการออกแบบการเรียนการสอนและเนื่องจากว่าการออกแบบการเรียนการสอนเป็นสาขาวิชาประยุกต์บทบาทของนักวิจัยจึงอาจจะดูเหมือนว่าแยกตัวออกไปตามลำพังและมีความสำคัญน้อยสิ่งดังกล่าวนี้ไม่เป็นความจริงเพราะถ้าปราศจากกระบวนการทางทฤษฎีแล้วสาขาวิชาก็จะเฉื่อยชาอยู่กับที่ความมุ่งหมายของนักออกแบบการเรียนการสอนคือความจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าตนสามารถที่จะก้าวไกลได้ในหนทางแห่งอาชีพของตนเองถ้ารับรู้วิธีการวิจัยที่เหมาะสมในแต่ละขั้นตอน(Seels and Glasgow, 1999 : 10 ) งานของผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะหลากหลายในความต้องการด้านความรู้ความชำนาญผลิตผลที่ได้และสถานการณ์หางานผู้ปฏิบัติการออกแบบการเรียนการสอนอาจจะวิเคราะห์ภาระงานภายใต้การนิเทศของผู้จัดการโครงการในองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการวิจัยและพัฒนาการผู้จัดการโครงการอาจจะนำทีมซึ่งพัฒนาการประชุมเชิงปฏิบัติการ 3วันสำหรับการอุตสาหกรรม (thee-day workshop)การออกแบบไม่จำเป็นต้องเป็นทีมเสมอปลายในองค์กรเล็กๆอาจจะใช้ผู้ออกแบบเพียงคนเดียวในการทำภาระการออกแบบการเรียนการสอน

ตารางที่ 13 เปรียบเทียบความสนใจและเป้าประสงค์ของผู้วิจัยและผู้ปฏิบัติ
แบบจำลองการออกแบบการเรียนการสอนทั้วไป
บทบาทของผู้วิจัย
บทบาทผู้ปฏิบัติ
ขั้นที่ 1 การวิเคราะห์





ขั้นที่ 2 การออกแบบ



ขั้นที่ 3 การพัฒนา




ขั้นที่ 4 การนำไปใช้






ขั้นที่ 5 ประเมินผล
*ศึกษาวิธีการระบุปัญหา
*ศึกษาผลของคุณลักษณะของผู้เรียน
*ศึกษาเนื้อหา

*ศึกษาตัวแปรในการออกแบบข่าวสาร
*พัฒนากลวิธีการเรียนการสอน
*ศึกษากระบวนการของทีม





*ศึกษาชาติวงศ์วรรณาของตัวแปรในสิ่งแวดล้อม


*การระบุตัวแปรของการนำไปใช้ให้ได้ผล
*ศึกษาข้อถกเถียงที่นำไปสู่การประเมินผล
*ประยุกต์ใช้วิธีการระบุปัญหา
*กำหนดคุณลักษณะของผู้เรียน
*ใช้การวิจัยในเนื้อหาตามสาขาวิชา
*ให้ผู้ปฏิบัติเป็นผู้ออกแบบการเรียนการสอน

*ทำงานกับผู้ผลิตในการพัฒนาสคริป
*ออกแบบและจัดการสิ่งแวดล้อมและ
ตัวแปรในการเรียนการสอน






*ประยุกต์ทฤษฏีการประเมินผล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น